บทความ Knowledges
ลบรอยสัก อย่างไรให้ถูกวิธี
วิธีลบรอยสักที่ถือว่าได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ในปัจจุบัน คือ การใช้เลเซอร์สำหรับเม็ดสี (Pigment specific laser) เนื่องจากเลเซอร์จะเลือกทำลายเฉพาะเม็ดสีสัก โดยไม่ทำลายเนื้อข้างเคียง เลเซอร์ลบรอยสักที่นิยมในปัจจุบันนี้จะมีอยู่ 2 ระบบ คือ Q-Switched และ Picosecond Laser ซึ่งแตกต่างกันคือระยะเวลาในการปล่อยแสง (Pulse Duration) โดยที่ Picosecond Laser มีระยะเวลาในปล่อยแสงด้วยความเร็วกว่า 1 ต่อล้านล้านวินาที ส่วน Q-Switched มีความเร็วอยู่ที่ 1 ต่อพันล้านวินาที ดังนั้น Picosecond Laser จึงทำให้เม็ดสีแตกได้ละเอียดกว่า
ลบรอยสัก เลือกเลเซอร์อย่างไร ระหว่าง Q-Switched Laser และ Picosecond Laser
Picosecond Laser เป็นเทคโนโลยีที่คิดค้นเพื่อมาช่วยลบรอยสักที่ดื้อต่อการรักษา ในช่วงเริ่มแรก เช่น 1-2 ครั้งแรกของการลบรอยสัก อาจใช้เลเซอร์ Q-Switched ก่อนได้ เนื่องจากเม็ดสีสักยังมีขนาดใหญ่ แต่เมื่อเราแตกเม็ดสีให้เล็กลงแล้ว ในครั้งถัดไป การใช้ Picosecond laser จะแตกเม็ดสีสักให้เล็กละเอียด ง่ายต่อการเก็บทำลายโดยเม็ดเลือดขาว ทำให้การรักษาดีขึ้นและไวมากขึ้น
Q: ต้องลบทั้งหมดกี่ครั้ง
จำนวนครั้งการทำเลเซอร์ลบรอยสักของแต่บุคคลจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- วิธีการสัก เช่น สักเครื่อง อาจจะลบยากกว่าสักมือ หรือสักพระ
- สีที่ใช้ สีโทนอ่อน เช่น ขาว สีเนื้อ แดง น้ำตาล จะเป็นโทนสีที่ลบยากเพราะสีจะทำปฏิกิริยากับแสงเลเซอร์ เปลี่ยนสีจากสีอ่อนเป็นสีเข้มหลังจากยิงเลเซอร์ในครั้งแรก
- ความหนาแน่นของสีสัก
- สภาพผิวและการตอบสนองต่อการรักษาของผิวแต่ละบริเวณ
Q: การดูแลหลังทำเลเซอร์ลบรอยสัก
การดูแลหลังลบรอยสัก งดโดนน้ำอย่างน้อย 1 วัน ทายาตามแพทย์สั่ง ใช้ระยะเวลาพักฟื้น 7-14 วันหรือจนกว่าสะเก็ดหลุดหมด หลบเลี่ยงแสงแดด 1-2 สัปดาห์ และสามารถลบรอยสักครั้งถัดไปได้ที่ 6-8 สัปดาห์
Q: ลบรอยสักคิ้ว แล้วขนคิ้วจะหายไปหรือไม่
เลเซอร์ลบรอยสักจะจับเม็ดสีดำ ทำให้ขนบริเวณที่โดนเลเซอร์กลายเป็นสีขาวและเปราะ ทำให้หักหลุดไป แต่เนื่องจากเลเซอร์ลบรอยสักไม่ใช่เลเซอร์กำจัดขนถาวร ขนคิ้วอาจจะหายไปในช่วงแรกและจะงอกขึ้นมาใหม่ แต่อาจจะงอกช้ากว่าปกติ
แนะนำให้ลบรอยสักด้วยการทำเลเซอร์เพราะการลบด้วยเลเซอร์จะเฉพาะเจาะจง ทำลายเฉพาะเม็ดสีสัก โอกาสทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียงน้อย หากใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีคุณภาพและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่แนะนำให้ลบด้วยวิธีอื่น เช่น สักสีเนื้อทับ เนื่องจากยิงเพิ่มเม็ดสีและทำให้ลบยากยิ่งขึ้น ไม่ใช้การใช้น้ำกรด หรือน้ำยาลบรอยสัก เพราะกรดจะกัดทั้งชั้นผิว ไม่ทำลายเฉพาะเม็ดสีเหมือนเลเซอร์ อาจทำให้เกิดแผลเป็นได้ และทำให้ลบยากขึ้น
หากท่านใดสนใจที่จะลบรอยสัก ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินก่อนการรักษา เพื่อเลือกเครื่องให้เหมาะกับชนิดหรือสีที่สัก
ขอขอบคุณบทความจาก พญ.สรวลัย รักชาติ