Skin Problem

ริ้วรอยเหี่ยวย่น

ริ้วรอยเหี่ยวย่น

ริ้วรอยเหี่ยวย่นเป็นสัญลักษณ์แห่งความชราที่ไม่มีใครต้องการให้ปรากฏบนผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าของตนเอง สาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นคือการเสื่อมสภาพของผิวจากการทำลายแสงแดด ถ้ามองกันให้ลึกถึงระดับเนื้อเยื่อจะพบว่าการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่เด่นชัดอย่างหนึ่งก็คือการเสื่อมสลายของเส้นใยคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยว และการหย่อนคล้อยของผิวหนัง ดังนั้นวิธีการรักษาที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาจะช่วยคืนความอ่อนวัยให้กับผิวได้

ยาทาได้ผลจริงหรือ

การทายาเป็นวิธีการลดริ้วรอยเบื้องต้นซึ่งผู้ป่วยสามารถรักษาตัวเองได้ การทายาเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีการรักษาอื่น ๆ เหมาะสำหรับท่านที่เพิ่งเริ่มต้นมีริ้วรอยน้อย ๆ หรืออาจใช้สำหรับท่านที่กลัวอาการเจ็บจากวิธีการรักษาอื่น ๆ ยาทาเพื่อลดริ้วรอยเป็นยากลุ่มเดียวกับยาทาเพื่อรักษาแผลหลุม เพราะผลที่เราต้องการคือสิ่งเดียวกัน ซึ่งก็คือการกระตุ้นให้เกิดการการสร้างเส้นใยคอลลาเจขึ้นที่ชั้นหนังแท้ ยาทาที่นับว่าได้ผลดีที่สุดนี้ได้แก่ ยาทาที่มีส่วนประกอบหลักเป็นกรดเรติโนอิคหรือกรดวิตะมินเอ ซึ่งต้องทาติดต่อกันทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 3-4 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผล ผลข้างเคียงที่ควรระวังคือ การเกิดผื่นแดง ผิวแห้ง เนื่องจากการระคายเคืองจากผลของการทายา

การปรับสภาพผิว

ไม่ใช่แต่วัยรุ่นเท่านั้นที่ใจร้อน ผู้สูงอายุก็ใจร้อนเช่นกัน ส่วนใหญ่ของท่านผู้มีริ้วรอยเหี่ยวย่นมักมีความกังวลและไม่ค่อยอดทนกับการรอคอยผลของการทายา วิธีการักษาโดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์มักจะให้ผลที่เร็วมากและชัดเจนมากกว่า การปรับสภาพผิวนับเป็นวิธีการหลักที่แพทย์ใช้เพื่อลดริ้วรอยเหี่ยวย่น การปรับสภาพผิวมีหลายวิธี เช่น การกรอด้วยเกล็ดอัญมณี การลอกผิวด้วยกรด และการใช้เลเซอร์ การกรอด้วยเกล็ดอัญมณีเหมาะสำหรับริ้วรอยที่ตื้น ๆที่เพิ่งเริ่มปรากฏ ส่วนการลอกผิวด้วยกรดมักได้ผลไม่แน่นอน ขึ้นกับชนิดและความเข้มข้นของกรด และทักษะของแพทย์ผู้ทำการรักษา

ลดริ้วรอยด้วยเลเซอร์

ในบรรดาวิธีการปรับสภาพผิวทั้งสามวิธีนี้ การปรับสภาพผิวด้วยเลเซอร์นับเป็นวิธีที่ได้ผลดีและสามารถคาดเดาผลการรักษาได้ดีที่สุด เลเซอร์สามรถกรอปรับสภาพพื้นผิวเพื่อลดริ้วรอย เพราะพลังงานความร้อนจากแสงเลเซอร์จะกรอริ้วรอยบริเวณผิวชั้นบนออก และยังสามารถกระตุ้นให้หนังแท้สร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นใหม่เพื่อช่วยเสริมให้ริ้วรอยน้อยลง นอกจากนี้ผิวที่สร้างขึ้นมาใหม่มักจะมีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้นทำให้รู้สึกผิวเด้งมากขึ้น การลดริ้วรอยด้วยเลเซอร์ให้ผลเป็นที่น่าพอใจและมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงน้อยหากได้รับการรักษาที่มาตรฐานโดยแพทย์ผู้ชำนาญ

เลเซอร์ลดริ้วรอยมีกี่ชนิด

เลเซอร์ลดริ้วรอยเป็นเลเซอร์ประเภทเดียวกันกับเลเซอร์ปรับสภาพผิวที่ใช้รักษาแผลหลุม ในปัจจุบันมีอยู่ 3 ระบบได้แก่ เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดมีแผล ชนิดไม่มีแผลและชนิดแผลน้อย ในปัจจุบันเลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดมีแผลไม่เป็นที่นิยมถึงแม้ว่าเลเซอร์ระบบนี้จะให้ผลการรักษาที่ดีที่สุดในบรรดาเลเซอร์ทั้ง 3 ระบบ เลเซอร์ชนิดนี้ทำงานโดยการกรอผิวชั้นบนออกเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างผิวใหม่ขึ้นมา ผู้ป่วยจะมีแผลบวมแดง และอาจมีน้ำเหลืองไหลซึมในระยะ 2-3 วันแรกหลังเลเซอร์ ใช้เวลาสมานแผลประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผลข้างเคียงหลังการรักษาที่อาจพบได้จากการรักษาด้วยเลเซอร์ระบบนี้ได้แก่ การเกิดรอยคล้ำ รอยด่างขาว และผิวหนังติดเชื้อ เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดไม่มีแผลทำงานโดยการปล่อยพลังงานแสงทะลุผ่านหนังชั้นนอกไปที่หนังแท้ เพื่อให้พลังงานความร้อนจากแสงไปกระตุ้นให้ผิวสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ ข้อดีของเลเซอร์ระบบนี้คือการที่ไม่มีแผลหลังเลเซอร์ แต่ข้อด้อยของเลเซอร์ระบบนี้คือผลการรักษาที่ไม่ชัดเจนหรือเห็นการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาเลเซอร์ปรับสภาพผิวระบบใหม่ขึ้นมา เพื่อแก้ไขข้อเสียของเลเซอร์ปรับสภาพผิวสองระบบข้างต้น ระบบใหม่ที่ว่านี้คือ เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดแผลน้อยหรือเลเซอร์ปรับสภาพผิวเป็นส่วน ๆ

เลเซอร์ปรับสภาพผิวเป็นส่วน ๆ

เลเซอร์ระบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ได้ผลการักษาใกล้เคียงกับเลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดมีแผล แต่จะเกิดแผลหลังการรักษาที่น้อยกว่า แผลหายเร็วกว่า และโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า เลเซอร์ชนิดนี้ทำงานโดยการปล่อยพลังงานแสงที่เข้มข้นเจาะผ่านหนังกำพร้าไปยังหนังแท้ทำให้เกิดรูเล็ก ๆ ขนาด 0.1-0.2 มิลลิเมตรต่อเนื่องกันเป็นพันจุดในพื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตร ซึ่งมองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น เพื่อทำให้ความร้อนไปยังชั้นชั้นหนังแท้ ความร้อนจะกระตุ้นให้หนังแท้สร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ซึ่งเส้นใยคอลลาเจนที่สร้างขึ้นมานี้จะช่วยให้ผิวเรียบเนียน การทำงานของเครื่องเลเซอร์ถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ส่งพลังงานแสงไปยังเนื้อเยื่อเป้าหมายอย่างแม่นยำ โดยแทบจะไม่เห็นร่องรอยของแผลบริเวณผิวหนังชั้นนอก ผิวหนังหลังการรักษาจะบวมแดงเล็กน้อยประมาณ 1-2 วัน หลังจากนั้นจะผิวเป็นสะเก็ดบาง ๆซึ่งจะหลุดลอกหมดภายในระยะเวลา 3-4 วัน การใช้ยาชาชนิดครีมทาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีก่อนการรักษาจะช่วยลดอาการแสบร้อนระหว่างทำเลเซอร์ได้เป็นอย่างดี จำนวนครั้งของการรักษาประมาณ 2-3 ครั้งทุก 1-2 เดือน ขึ้นกับความตื้นลึกของริ้วรอย

เลเซอร์ลบริ้วรอยได้ดีแค่ไหน

ที่แน่นอนคือเลเซอร์ไม่สามารถลบริ้วรอยให้เรียบสนิทเหมือนผิวของทารก  เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดแผลน้อยหรือเลเซอร์ปรับสภาพผิวเป็นส่วน ๆซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน อาจทำให้สภาพผิวโดยรวมเรียบขึ้นมากที่สุดไม่เกิน 70 เปอร์เซ็นต์ภายหลังการรักษาต่อเนื่องกัน 5 ครั้งทั้งนี้ผลการรักษายังขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของริ้วรอย และสุขภาพของผิวหนังก่อนทำการรักษา ริ้วรอยที่ลึกมากจะได้ผลการรักษาน้อยกว่าริ้วรอยที่เพิ่งเริ่มปรากฏ ผลการรักษาสำหรับท่านที่ดูแลใส่ใจผิวมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว การหลบเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่ไม่จำเป็น และการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ย่อมจะดีกว่าท่านที่ผิวหนังกรำแดดเป็นประจำและขาดการดูแลรักษา

การรักษาเห็นผลได้เร็วแค่ไหน

หลักการการทำงานหลักของเลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดแผลน้อยหรือเลเซอร์ปรับสภาพผิวเป็นส่วน ๆ คือการกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาไหม้เพื่อลดริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว โดยปกติการสร้างเส้นใยคอลลาเจนจะเริ่มต้นประมาณสัปดาห์ที่ 2-3 หลังการรักษา กระบวนการสร้างเส้นใยคอลลาเจนจะค่อย ๆทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นจนสังเกตได้ที่ประมาณ 1 เดือนหลังการรักษา และผิวจะเรียบขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนที่ 6 หลังหยุดการรักษาครั้งสุดท้าย

หลังการรักษาผิวจะเรียบตลอดไปหรือไม่

ผิวที่เรียบขึ้นหลังการรักษาด้วยเลเซอร์จะคงสภาพอยู่อย่างน้อย 2 ปี ทั้งนี้ขึ้นกับว่าท่านจะดูแลผิวหลังการหลังรักษาได้ดีเท่าไร  และควรตระหนักว่าผิวหนังของเราก็ต้องเสื่อมไปตามวัย ซึ่งเราไม่อาจฝืนธรรมชาติได้ทั้งหมด

ข้อคิดทิ้งท้าย

ริ้วรอยเหี่ยวย่นเป็นผลโดยตรงจากแสงแดดที่ทำลายผิวหนัง ท่านที่ยังอายุน้อยและยังไม่ปรากฏริ้วรอยเหล่านี้ควรพยายามป้องกันผิวของท่านจากแสงแดดแต่เนิ่น การป้องกันแดดที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่ไม่จำเป็น และการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยชะลอการเสื่อมของผิวหนังได้เป็นอย่างดี