บทความ Knowledges
เคล็ดลับอายุยืนของชาว Blue Zone
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน จะมีนวัตกรรมหรือยาที่บอกว่า กินแล้วจะทำให้สุขภาพดี กินแล้วปลอดภัย ร่างกายแข็งแรง แต่มีคนบางกลุ่ม ไม่จำเป็นจำพึ่งพายาหรือนวัตกรรมเหล่านี้ ก็สามารถมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนได้ เรียกว่า ‘Blue zone’ วันนี้ iSKY จะชวนไปดูเคล็ดลับการใช้ชีวิตของกลุ่มคนเหล่านี้กัน
Blue zones เริ่มจากไหน ?
ในปี 2004 ทาง National Geographic ได้ร่วมมือกับ Dan Beuttner นักเขียนชื่อดังของหนังสือพิมพ์ New York Times ริเริ่มแนวคิด Blue Zone ขึ้น เรียกสถานที่ที่มีผู้คนที่มีอายุยืนยาว สุขภาพดีกว่าเมืองอื่น ๆ บนโลก เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เริ่มเกิดค้นหาสถานที่แบบนี้อีก ปัจจุบัน มี Blue Zone ทั้ง 5 เมืองด้วยกัน
เมืองซาร์ดิเนีย Sardinia ประเทศอิตาลี
เป็นที่แรกที่ถูกค้นพบโดยทีมวิจัย เมืองซาร์ดิเนีย เป็นเมืองที่อยู่ห่างไกล ทำให้คนในเมืองนี้มียีนที่ไม่มีการเจือปนจากคนภายนอกเลย ทำให้ผู้คนที่นี้มีลักษณะทางพันธุกรรมที่เฉพาะตัว และแตกต่างจากคนอิตาลีที่อาศัยในเมืองอื่น ๆ
นมและชีส
ชาวซาร์ดิเนียน เน้นทานแบบ Plant – Based Diet เป็นหลัก คือ มีผักผลไม้สด ถั่ว และขนมปังโฮลเกรน ทานเนื้อสัตว์เฉพาะวันอาทิตย์และโอกาสสำคัญเท่านั้น เมืองนี้เลือกดื่มนมแพะที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและอัลไซเมอร์ และเลือกกินชีสจากนมแกะ(pecorino) ซึ่งมีโอเมก้า 3 ดื่มไวน์แดง Cannonua ในปริมาณพอเหมาะ ซึ่งมีสารฟลาโวนอยด์ (flavonoid) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และเดินออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เกาะโอกินาวา Okinawa ประเทศญี่ปุ่น
จากการสำรวจ พบว่า โอกินาวาคือเมืองที่มีประชากรที่อายุยืนมากที่สุด และอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 65 ปีขึ้นไป เมืองโอกินาวาเป็นกลุ่มทางสังคมที่มีขนาดเล็ก แต่มีความแน่นแฟ้น ทำให้ความช่วยเหลือของคนในชุมชน ที่จะทำให้ลดภาวะความเครียดและกดดัน ทางจิตใจ และเกิดสุขภาพจิตที่ดี
ถั่ว อาหารมื้อประจำของชาวโอกินาวา
เมนูหลักของชาวโอกินาวาส่วนใหญ่ จะมีผัดผัก มันหวาน และถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ และซุปมิโสะ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงแต่แคลอรีต่ำ สารฟลาโวนอยด์ในเต้าหู้ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งเต้านม ส่วนนัตโตะ หรือ ถั่วหมัก ซึ่งมีสารอาหารและช่วยปรับสมดุลลำไส้
เมืองโลมา ลินดา Loma Linda รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมืองโลมาลินดา อยู่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย มีกลุ่มคริสเตียนเซเวนเดย์แอดแวนทิสต์ (Seventh-day Adventist) อยู่ราว ๆ 9,000 คน พวกเขาคือ Blue zone ที่มีอายุยืนกว่าคนอเมริกันทั่วไป นอกจากจะเป็นกลุ่มคนที่มีสาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ เขายังทานมังสวิรัติ ออกกำลังกาย ไม่ดื่มและไม่สูบ
สัดส่วนอาหารที่สมดุล
มีกลุ่มคริสเตียนเซเวนเดย์แอดแวนทิสต์อาศัยอยู่ โดยเขาทานอาหารมังสวิรัติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มสุรา มีการกำหนดสัดส่วนอาหารทุกมื้อให้สมดุล ทั้งพืชตระกูลถั่ว ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี น้ำตาลและเกลือต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยทางโภชนาการ ที่กล่าวว่า รับประทานพืชตระกูลถั่ว 3 ครั้งต่อสัปดาห์ช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้ถึง 30-40%
เมืองนิคอยา ประเทศคอสตาริก้า
กลุ่มคนละติน มีมุมมองการใช้ชีวิตเฉพาะตัว เรียกว่า Plan de vida แปลว่า เหตุผลที่มีชีวิตอยู่ เป็นแนวคิดในหมู่ผู้สูงอายุที่ทำให้พวกเขายังมีความแอคทีฟอยู่เสมอ นอกจากนี้ น้ำดื่มในเมืองนิคอยา มีปริมาณแคลเซียมที่สูงที่สุด ยิ่งดื่มเท่าไหร่ ยิ่งลดอัตราการเกิดเกี่ยวกับกระดูกอีกด้วย
ผักสามพี่น้อง
กลุ่มคนละตินเมืองนี้ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป และกินอาหารมื้อเย็นน้อยๆ และนิยมทานแบบเมโสอเมริกัน เรียกว่า ผักสามพี่น้อง คือ สควอช (พืชตระกูลฟักแตง), ข้าวโพด และถั่ว นอกจากนี้ น้ำดื่มในเมืองนิคอยา มีปริมาณแคลเซียมที่สูง ช่วยลดอัตราการเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกอีกด้วย
เกาะอิคาเรีย ประเทศกรีซ
พวกเขามีประเพณีและวิถีชีวิตคล้ายชาวซาร์ดิเนียน แต่ที่นี่ ผู้คนมักนอนกลางวัน กินแต่ผลไม้ ผัก ถั่ว ธัญพืช มันฝรั่ง และใช้น้ำมันมะกอกในการประกอบอาหาร ซึ่งไม่มีไขมันอิ่มตัว ช่วยบำรุงหัวใจ
ดื่มชาสมุนไพร
พวกเขาทานอาหารที่หลากหลายแบบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งประกอบด้วยผักและผลไม้จำนวนมาก ธัญพืช ถั่ว มันฝรั่ง และใช้น้ำมันมะกอกในการประกอบอาหาร ซึ่งมีประโยชน์ในการลดการอักเสบและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และนิยมการดื่มชาสมุนไพร มีส่วนประกอบคือ โรสแมรี่ เสจ และ ออริกาโน มีสารต้านอนุมูลอิสระและเป็นยาขับปัสสาวะ รักษาความดันโลหิตด้วยการกำจัดโซเดียมและน้ำส่วนเกินจากร่างกายได้
ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับการดำรงอยู่ของชาว Blue zone ที่ทำให้เขามีอายุที่ยืนยาว แถมสุขภาพดีอีกต่างหาก วิธีง่าย ๆ ที่ไม่ต้องอยู่ใน Blue Zone ก็สามารถปฏิบัติได้ เพื่อร่างกายที่เรารัก และสุขภาพดีที่เราปราถนาค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก bluezones.com ค่ะ